บจก. ย่อมาจากบริษัทจำกัด คือรูปแบบนิติบุคคลที่เกิดจากการรวมตัวของบุคคล

บริษัทจำกัดกับห้างหุ้นส่วนต่างกันอย่างไร ? อธิบายครบรอบด้าน

บริษัทจำกัดคืออะไร แตกต่างจากห้างหุ้นส่วนอย่างไร ?

ในการเริ่มต้นธุรกิจหนึ่งกิจการ คำถามแรก ๆ ที่นักธุรกิจมือใหม่มักต้องเผชิญคือ “จะเลือกจดทะเบียนในรูปแบบไหนดี ?” ระหว่าง “บริษัทจำกัด” กับ “ห้างหุ้นส่วนจำกัด” แม้ทั้งสองแบบจะได้รับการรับรองสถานะนิติบุคคลตามกฎหมาย และต่างก็มีข้อดี-ข้อจำกัดในตัวเอง แต่ความเหมาะสมของแต่ละรูปแบบย่อมขึ้นอยู่กับโครงสร้างธุรกิจ ความต้องการด้านการลงทุน การบริหารจัดการ และความพร้อมในการรับความเสี่ยงของผู้ร่วมทุน บทความนี้จึงจะพาไปรู้ว่าบริษัทจำกัดกับห้างหุ้นส่วนต่างกันอย่างไรแบบครบทุกมิติ ตั้งแต่พื้นฐานทางกฎหมาย หน้าที่ความรับผิดชอบ โอกาสในการเติบโต ไปจนถึงปัจจัยที่ควรนำมาชั่งน้ำหนักก่อนตัดสินใจว่าควรเปิดกิจการแบบไหนดี

เข้าใจความหมายและหลักการพื้นฐาน

บริษัทจำกัดคืออะไร ?

บจก.” หรือที่ย่อมาจากบริษัทจำกัดคือรูปแบบนิติบุคคลที่เกิดจากการรวมตัวกันของบุคคลอย่างน้อย 2 คนขึ้นไป ร่วมลงทุนเพื่อดำเนินกิจการโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไรมาแบ่งปันกัน จุดเด่นของบริษัทจำกัดอยู่ที่การแยกสถานะของ “บริษัท” ออกจาก “ผู้ถือหุ้น” อย่างชัดเจน กล่าวคือ ผู้ถือหุ้นจะมีความรับผิดจำกัดเพียงเท่ากับจำนวนเงินที่ตนลงทุนไว้ในหุ้นของบริษัทเท่านั้น

บริษัทจำกัดจะได้รับเลขทะเบียนนิติบุคคล 13 หลัก และต้องใช้ชื่อที่มีคำว่า “บริษัท” นำหน้าและ “จำกัด” ต่อท้าย หรือ “Company Limited” / “Co., Ltd.” ในภาษาอังกฤษ

 ห้างหุ้นส่วนจำกัดคืออะไร ?

ห้างหุ้นส่วนจำกัดก็เป็นนิติบุคคลเช่นกัน แต่มีลักษณะเฉพาะคือการร่วมลงทุนระหว่างบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหุ้นส่วน ได้แก่

  • หุ้นส่วนจำกัดความรับผิด (Limited Partner) : รับผิดชอบตามจำนวนเงินที่ลงทุน
  • หุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิด (General Partner) : รับผิดชอบต่อหนี้สินของห้างแบบไม่จำกัด ซึ่งหมายความว่าทรัพย์สินส่วนตัวของหุ้นส่วนประเภทนี้อาจถูกนำมาชำระหนี้ได้

กฎหมายกำหนดให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดต้องมีหุ้นส่วนผู้จัดการอย่างน้อย 1 คน ซึ่งมักเป็นผู้มีความรับผิดไม่จำกัด

ความแตกต่างสำคัญระหว่างบริษัทจำกัดและห้างหุ้นส่วนจำกัด

โครงสร้างและการบริหารจัดการ

  • บริษัทจำกัด คือนิติบุคคลมีโครงสร้างที่ชัดเจนและเป็นระบบมากขึ้น แบ่งเป็นผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นเจ้าของ และคณะกรรมการบริษัทที่ทำหน้าที่บริหาร โดยมีการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเพื่อออกเสียงในประเด็นสำคัญ เช่น การแต่งตั้งกรรมการหรืออนุมัติงบการเงิน การตัดสินใจต่าง ๆ ภายในบริษัทต้องอยู่ภายใต้กรอบวัตถุประสงค์ของบริษัท
  • ห้างหุ้นส่วนจำกัด มีโครงสร้างที่เรียบง่ายกว่า โดยหุ้นส่วนผู้จัดการ (General Partner) เป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจและบริหารกิจการ ส่วนหุ้นส่วนจำกัดความรับผิดมีบทบาทในการแสดงความเห็นหรือเป็นที่ปรึกษาเท่านั้น

ความรับผิดชอบทางกฎหมาย

  • บริษัทจำกัด ผู้ถือหุ้นทุกคนมีความรับผิดจำกัดเพียงเท่าที่ตนลงทุน ทรัพย์สินส่วนตัวจะไม่ถูกนำมาชดใช้หนี้ของบริษัท
  • ห้างหุ้นส่วนจำกัด หุ้นส่วนจำกัดมีความรับผิดจำกัด แต่หุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดต้องรับผิดในหนี้ของห้างแบบเต็มจำนวน

 ความน่าเชื่อถือและการระดมทุน

  • บริษัทจำกัด คือทางเลือกการลงทุนที่มักได้รับความเชื่อถือสูงกว่า เนื่องจากมีระบบการเปิดเผยข้อมูลทางการเงิน โครงสร้างการบริหารที่ตรวจสอบได้ และความสามารถในการระดมทุนผ่านการออกหุ้นหรือขอสินเชื่อได้ง่าย
  • ห้างหุ้นส่วนจำกัด แม้จะได้รับการยอมรับในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก แต่ในสายตาของนักลงทุนหรือสถาบันการเงินอาจมีความเสี่ยงสูงกว่า โดยเฉพาะในเรื่องโครงสร้างความรับผิดที่ไม่สมดุล

 ภาระทางภาษีและการจัดทำบัญชี

  • บริษัทจำกัด ต้องจัดทำงบการเงินประจำปี มีผู้สอบบัญชีรับอนุญาตตรวจสอบบัญชี และต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล
  • ห้างหุ้นส่วนจำกัด ก็มีหน้าที่จัดทำบัญชีและเสียภาษีเช่นกัน แต่หากทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาท และรายได้รวมไม่เกิน 30 ล้านบาท อาจไม่จำเป็นต้องมีผู้สอบบัญชีรับอนุญาต

 ความต่อเนื่องของกิจการ

  • บริษัทจำกัด มีความต่อเนื่องทางกฎหมายสูง การเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นหรือกรรมการไม่ทำให้บริษัทสิ้นสภาพ
  • ห้างหุ้นส่วนจำกัด อาจได้รับผลกระทบหากหุ้นส่วนผู้จัดการถอนตัวหรือเสียชีวิต ความต่อเนื่องของกิจการอาจสะดุดได้

เลือกใช้รูปแบบนิติบุคคลให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ

บริษัทจำกัดเหมาะสำหรับใคร ?

  • ธุรกิจที่ต้องการระดมทุนหรือมีแผนขยายกิจการในอนาคต
  • ธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงและผู้ลงทุนต้องการจำกัดความรับผิดชอบอย่างชัดเจน
  • ธุรกิจที่ต้องการความน่าเชื่อถือในสายตาของคู่ค้า ลูกค้า และสถาบันการเงิน
  • ธุรกิจที่มีแผนจะเติบโตและอาจต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต
  • ธุรกิจที่มีผู้ร่วมลงทุนจำนวนมากหรือไม่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน

ห้างหุ้นส่วนจำกัดเหมาะสำหรับใคร ?

  • ธุรกิจขนาดเล็กที่มีผู้ร่วมลงทุนจำนวนน้อยและมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน
  • ธุรกิจที่ต้องการโครงสร้างการบริหารจัดการที่เรียบง่ายและคล่องตัว
  • ธุรกิจที่ต้องการลดภาระในการจัดทำบัญชีและการตรวจสอบ
  • ธุรกิจที่ไม่มีแผนจะระดมทุนจากบุคคลภายนอกในอนาคตอันใกล้
  • ธุรกิจบริการวิชาชีพที่ต้องการความรวดเร็วในการตัดสินใจ

เชื่อว่าบทความนี้น่าจะช่วยสร้างความกระจ่างว่าบริษัทจำกัดกับห้างหุ้นส่วนต่างกันอย่างไร และไม่ว่าคุณจะเลือกจัดตั้งธุรกิจในรูปแบบบริษัทจำกัดหรือห้างหุ้นส่วน การเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมถือเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโต โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจ SME ที่มักประสบความท้าทายในการขอสินเชื่อผ่านช่องทางดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม Funding Societies แพลตฟอร์มการลงทุนดิจิทัลและคราวด์ฟันดิงชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือทางเลือกที่ตอบโจทย์ ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการเป็นบริษัท Fintech ในไทยที่สามารถจัดหาเงินทุนระยะสั้นสำหรับ SME โดยระดมทุนจากนักลงทุนที่หลากหลาย ทำให้ผู้ประกอบการเข้าถึงเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับโครงสร้างนิติบุคคลที่คุณเลือก กรอกใบสมัครในเว็บไซต์ได้เลย

ข้อมูลอ้างอิง 

  • ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) และ บริษัทจำกัด (บจก.) ต่างกันอย่างไร ข้อควรรู้ก่อนทำธุรกิจ. สืบค้นวันที่ 17 เมษายน 2568 จาก https://www.sanook.com/money/934943/

หมายเหตุ

  1. ในประเทศไทย Funding Societies ดำเนินธุรกิจ 2 ส่วนที่ต่างกันคือ FS Siam Co., Ltd. เป็น Funding Portal ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และ FS Capital Co., Ltd. เชี่ยวชาญในการให้กู้ยืมโดยตรงแก่ธุรกิจขนาดเล็ก โครงสร้างนี้ช่วยให้ Funding Societies สามารถตอบสนองความต้องการทางการเงินที่หลากหลายภายในภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  2. เงื่อนไขเป็นไปตามข้อตกลงในสัญญา โปรดศึกษารายละเอียดก่อนใช้บริการ

Posted

in

by

Tags:

Comments

Leave a Reply

Discover more from Funding Societies Thailand Blog

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading