เงินทุนหมุนเวียน: เรื่องที่ต้องรู้ก่อนหาสินเชื่อเพื่อธุรกิจ
การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จไม่ได้อาศัยแค่การหาเงินทุนจำนวนมากมาต่อยอดเพียงอย่างเดียว แต่เจ้าของธุรกิจยังต้องรู้จักวิธีการบริหารต้นทุนอย่างเข้าใจ เพื่อรักษาสภาพคล่องในธุรกิจให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘เงินทุนหมุนเวียน’ หนึ่งในต้นทุนทางธุรกิจที่ส่งผลต่อความอยู่รอดของธุรกิจโดยตรง แล้วเงินทุนหมุนเวียนธุรกิจคืออะไร สำคัญแค่ไหน มาหาคำตอบในบทความนี้กัน
เงินทุนหมุนเวียนคืออะไร?
เมื่อเริ่มต้นทำธุรกิจได้ไม่นาน หลายคนอาจเข้าใจว่า ‘เงินทุน’ และ ‘เงินทุนหมุนเวียน’ ในธุรกิจเป็นเงินทุนประเภทเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ เจ้าของธุรกิจจำนวนมากจึงตัดสินใจมองหาแหล่งเงินทุนทั้งแบบไม่มีหลักทรัพย์และมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อนำมาใช้เป็นเงินทุนและเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ‘เงินทุน’ และ ‘เงินทุนหมุนเวียน’ เป็นเงินในธุรกิจที่แตกต่างกัน เงินทุนจะหมายถึงต้นทุนแรกเริ่มที่ใช้ในการสร้างธุรกิจ แต่ ‘เงินทุนหมุนเวียน’ หรือ Working Capital คือ เงินทุนที่ธุรกิจต้องนำไปใช้หมุนเวียนเพื่อการดำเนินทางธุรกิจทั้งหมด จนกว่าธุรกิจจะมีรายได้ เงินสดจากการขายสินค้า หรือมีการชำระหนี้จากลูกหนี้ทางการค้า
โดยทั่วไปแล้ว เงินทุนหมุนเวียนจะใช้สำหรับรายจ่ายธุรกิจในหลาย ๆ ด้าน อาทิ เงินเดือนพนักงาน ค่าแรงรายวัน ต้นทุนวัตถุดิบที่จะนำมาผลิตเป็นสินค้า เงินสำหรับชำระหนี้ธุรกิจ ไปจนถึงเงินสำหรับการขยายกิจการ
เงินทุนหมุนเวียนสำคัญต่อธุรกิจอย่างไร?
เงินทุนหมุนเวียน เป็นส่วนต่างระหว่าง ‘สินทรัพย์หมุนเวียน’ และ ‘หนี้สินหมุนเวียน’ โดยทั้ง 2 ส่วนจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ดังนี้
- สินทรัพย์หมุนเวียน หรือ Current Assets คือ สินทรัพย์ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสด เพื่อสร้างสภาพคล่องให้ธุรกิจได้ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ เป็นสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ให้แก่ธุรกิจได้ โดยทั่วไปแล้วจะประกอบไปด้วย ‘เงินสด’ ‘ลูกหนี้ทางการค้า’ ‘สินค้าในคลังที่ยังไม่ได้ขาย’ รวมไปถึง ‘เงินลงทุนในระยะสั้น’
- หนี้สินหมุนเวียน หรือ Current Liabilities คือ ภาระผูกพัน รายจ่าย หรือหนี้สินที่ธุรกิจต้องชำระคืนภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะมีอายุไม่เกิน 1 ปี ประกอบไปด้วยสินเชื่อเพื่อธุรกิจ และ เจ้าหนี้ทางการค้า
ดังนั้น หากยิ่งธุรกิจมีสินทรัพย์หมุนเวียน หรื สินทรัพย์ที่สร้างเงินสดให้แก่ธุรกิจมากเท่าไหร่ เงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจก็จะยิ่งมากขึ้น ส่งผลให้มีเงินทุนมาบริหารกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีโอกาสเติบโตสูง ในทางตรงกันข้าม หากเงินทุนหมุนเวียนมีน้อย หรือติดลบ ธุรกิจก็มีโอกาสที่จะมีเงินทุนไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ และมีโอกาสที่จะต้องเลิกกิจการสูงขึ้น
หมดสงสัย! ทำไม “ธุรกิจขาดทุนอยู่ได้ แต่ขาดเงินสดไม่ได้”
หลายคนอาจเข้าใจว่า การขาดทุนเป็นสาเหตุทำให้ธุรกิจต้องเลิกกิจการ
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ธุรกิจสามารถขาดทุนทางการค้าได้ แต่จะขาดเงินทุนหมุนเวียนไปไม่ได้ เพราะ หากไม่มีเงินทุนไปหมุนเวียนเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ทั้งต้นทุนวัตถุดิบ ค่าแรงงาน ไปจนถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ธุรกิจก็ไม่สามารถดำเนินการผลิตและต้องเลิกกิจการไปในที่สุด
เงินทุนหมุนเวียน ถือเป็นเงินทุนทางธุรกิจที่มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจที่ต้องรอลูกค้าชำระเงิน เช่น ธุรกิจที่มีการรับชำระด้วยบัตรเครดิต ธุรกิจเงินเชื่อ ไปจนถึงธุรกิจที่ต้องรอลูกค้าชำระเงินตามบิล หรือใบแจ้งหนี้
เงินทุนหมุนเวียนธุรกิจน้อย แก้ปัญหาเบื้องต้นอย่างไร?
เมื่อเงินทุนหมุนเวียนธุรกิจเริ่มเหลือน้อยลง ธุรกิจสามารถคิดแนวทางเพื่อ ‘เพิ่มสินทรัพย์หมุนเวียน’ และ ‘ลดหนี้สินหมุนเวียน’ เบื้องต้นได้
สำหรับการเพิ่มสินทรัพย์หมุนเวียน ธุรกิจควรติดตามให้ลูกหนี้ทางการค้ามาชำระหนี้สิน อีกทั้งยังสามารถบริหารจัดการคลังสินค้าใหม่ หรือหาทางระบายสินค้าเพื่อสร้างเงินสดให้แก่ธุรกิจมากขึ้น เช่น การจัดโปรโมชัน หรือส่วนลดพิเศษ
แต่หากตรวจสอบแล้วว่า ‘หนี้สินหมุนเวียน’ เป็นสาเหตุทำให้เงินทุนหมุนเวียนมีสภาพคล่องน้อยลง ธุรกิจอาจวางแผนเจรจาขอก่อนผ่อนชำระหนี้สินกับทางสินเชื่อเพื่อธุรกิจ หรือสถาบันทางการเงิน ตลอดจนวางแผนลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในแต่ละเดือน
วางแผนเสริมสภาพคล่องเงินทุนหมุนเวียนในระยะยาวได้อย่างไร?
สำหรับธุรกิจที่ลองแก้ปัญหาเบื้องต้น ด้วยการบริหารสินทรัพย์หมุนเวียนและหนี้สินหมุนเวียนด้วยตัวเองแล้ว แต่เงินทุนหมุนเวียนก็ยังไม่เพียงพอ หรือไม่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจในหลาย ๆ แง่มุม เจ้าของธุรกิจสามารถวางแผนเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนให้ธุรกิจได้ 3 วิธีหลัก ดังนี้
1. เปิดระดมทุนผ่าน ‘สินทรัพย์การลงทุน’
ธุรกิจที่เปิดกิจการมาอย่างยาวนาน ตลอดจนมีความน่าเชื่อถือและมูลค่าบริษัทที่สูง สามารถเสริมสภาพคล่องเงินทุนหมุนเวียนได้ด้วยการระดมทุนผ่าน ‘สินทรัพย์การลงทุน’ หรือทำการเปิด IPO (Initial Public Offering) เพื่อเสนอขายสินทรัพย์ให้แก่นักลงทุน เช่น หุ้น และ กองทุน ซึ่งการระดมทุนในส่วนนี้สามารถทำได้
ผ่าน ‘บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)’ หรือ ‘ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์’ ที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
อย่างไรก็ดี สำหรับธุรกิจสตาร์ตอัป หรือธุรกิจที่มีโปรเจกต์พิเศษ แต่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจก็สามารถเปิดระดมทุนผ่าน ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ หรือทำการ ICO (Initial Coin Offering) เพื่อออกเป็นโทเคนดิจิทัลได้เช่นกัน ซึ่งในประเทศไทย ธุรกิจที่เลือกระดมทุนผ่านสินทรัพย์ดิจิทัลจะต้องดำเนินการผ่าน ICO Portal หรือ ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล ที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
2. หุ้นกู้ระยะสั้น
นอกจากจะสามารถเปิดระดมทุนผ่านสินทรัพย์การลงทุนได้แล้ว ธุรกิจยังสามารถออก ‘หุ้นกู้ระยะสั้น’ หรือตราสารหนี้ระยะสั้นให้แก่นักลงทุนได้เช่นกัน
อย่างไรก็ดี การเปิดหุ้นกู้เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีความน่าเชื่อถือสูง เนื่องจากนักลงทุนจะพิจารณาลงทุนหุ้นกู้จาก ‘อันดับความน่าเชื่อถือ’ หรือ Credit Ranking ที่ประเมินจากความสามารถในการชำระหนี้ของธุรกิจที่ออกหุ้นกู้ อีกทั้งนักลงทุนยังพิจารณาถึง ‘ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ’ ทั้งในรูปแบบของเงินปันผล และดอกเบี้ยด้วยเช่นกัน
ด้วยปัจจัยด้านความน่าเชื่อถือ ความสามารถในการชำระหนี้และผลตอบแทนทั้งหมด ธุรกิจจึงควรประเมินศักยภาพด้านการดำเนินธุรกิจก่อนตัดสินใจออกหุ้นกู้ระยะสั้นด้วย
3. สินเชื่อเพื่อธุรกิจ
สำหรับธุรกิจที่ต้องการแหล่งเงินทุน แต่ไม่มีหลักทรัพย์ในการค้ำประกัน ตลอดจนธุรกิจ SME ที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจเพิ่มขึ้น การขอสินเชื่อเพื่อธุรกิจถือเป็นตัวเลือกที่ควรค่าแก่การพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง
โดยทั่วไปแล้ว การอนุมัติสินเชื่อสำหรับธุรกิจจะมีการพิจารณาจากหลายปัจจัยร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการจดทะเบียนธุรกิจ ระยะเวลาในการประกอบกิจการ ไปจนถึงผลประกอบการและประวัติทางการเงิน อย่างไรก็ดี วงเงิน อัตราดอกเบี้ย และเงื่อนไขการผ่อนชำระของสินเชื่อเพื่อธุรกิจและสินเชื่อเพื่อธุรกิจ SME จะแตกต่างกันไปตามนโยบายของบริษัทผู้ให้บริการ ดังนั้น ธุรกิจจึงควรศึกษารายละเอียดทั้งหมดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ
เพียงเท่านี้ เจ้าของธุรกิจทุกคนก็เข้าใจถึงความสำคัญและแนวทางการบริหารเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจมากขึ้นแล้ว สำหรับธุรกิจไหนที่กำลังมองหาแหล่งเงินทุน แต่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน มาเพื่อเสริมเงินทุนหมุนเวียนสภาพคล่องให้ธุรกิจ Funding Societies พร้อมให้บริการสินเชื่อเพื่อธุรกิจระยะสั้น ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน รองรับการขอสินเชื่อวงเงินสูงสุด 15 ล้านบาท พร้อมอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเพียง 1% ต่อเดือน กรอกรายละเอียดในแบบฟอร์มให้ครบเพื่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญฟรี




Leave a Reply